วัดบุณยประดิษฐ์ (พระอารามหลวง)
วัดบุณยประดิษฐ์ เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เป็นพระอารามหลวงเพียงแห่งเดียวในเขตบางแค ตั้งอยู่เลขที่ ๙ หมู่ที่ ๒ ถนนพุทธมณฑล สาย ๒ แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ ๑๐๑๖๐ สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย ที่ดินที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ ๒๓ ไร่ ๑๕ ตารางวา โฉนดที่ดินเลขที่ ๔๕๔๙ , ๑๗๔๕๒ , ๑๗๔๕๔ , ๑๑๙๙๑๓ และ ๘๓๖๒๒ ตั้งวัดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๒ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้งแรก ( ค้นหลักฐานไม่พบ)
วัดบุณยประดิษฐ์ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘ และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๔๗ ( ตามประกาศของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ลงวันที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๗)
พื้นที่ตั้งของวัดมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบ
ทิศเหนือ ตั้งโรงเรียนประถม สังกัดกรุงเทพมหานคร ติดกับสหกรณ์การเกษตรเขตภาษีเจริญ
ทิศใต้ ติดคลองบางแวก
ทิศตะวันออก ติดที่ดินเอกชน
ทิศตะวันตก ติดที่ดินจัดสรรของเอกชน

ประวัติความเป็นมา
วัดบุณยประดิษฐ์ เดิมชื่อวัดใหม่บุญน่วม บ้างชาวบ้านก็เรียกว่าวัดใหม่ตาน่วม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
เมื่อราวปีพุทธศักราช ๒๔๗๘ คุณโยมบุญ คุณโยมน่วม โพธินิมิตร เป็นผู้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินสร้างวัด จำนวน ๑๐ ไร่ ๓ งาน ๗๘ ตารางวา และได้กราบอาราธนาพระอาจารย์สวาท จากวัดศาลาแดง มาอยู่จำพรรษาและเป็นผู้ดูแลวัด จนกระทั่งท่านได้ถึงแก่มรณภาพ
ปีพุทธศักราช ๒๔๘๑ ทายกทายิกาได้กราบอาราธนาพระอาจารย์หรั่ง มาอยู่จำพรรษาและเป็นผู้ดูแลวัดเป็นรูปต่อมา จนท่านได้ถึงแก่มรณภาพ
ปีพุทธศักราช ๒๔๘๙ ญาติโยมทายกทายิกาได้กราบอาราธนา หลวงพ่อสิน ติสฺโส มาอยู่จำพรรษาและดูแลปกครองวัดเป็นลำดับมาและได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดบุณยประดิษฐ์ ท่านเป็นพระนักพัฒนาและเป็นนักปกครอง ท่านได้เชิญชวนคณะศรัทธาญาติโยมร่วมกันสร้างอาคารเสนาสนะ อาทิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ศาลาโรงทึม และในส่วนอื่น ๆ อีก เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการบำเพ็ญกุศล ในด้านการสนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม หลวงพ่อสิน ติสฺโส ท่านได้เปิดให้มีการเรียนการสอนแผนกธรรมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลอดอายุไขของท่าน ท่านได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่วัดบุณยประดิษฐ์ และท้องถิ่นมาโดยลำดับ จนกระทั่งท่านได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๘ รวมสิริอายุ ๗๗ พรรษา ๔๑ ด้วยอาการอันสงบ
ปีพุทธศักราช ๒๔๙๙ พระอาจารย์จำรัส ภทฺทโก ผู้ดูแลปกครองวัด ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๒ และได้ลาสิกขาไปเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๓
ปีพุทธศักราช ๒๕๐๓ พระอาจารย์สนิท อมโร ซึ่งได้รับการอุปสมบท ณ วัดบุณยประดิษฐ์ แห่งนี้ เป็นผู้ดูแลปกครองวัดสืบมาและได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๓ ท่านได้พัฒนาวัด โดยได้สร้างกุฎิสงฆ์จำนวน ๔๐ ห้อง
ปีพุทธศักราช ๒๕๑๐ ท่านได้ซื้อที่ดินเพิ่มขยายอาณาบริเวณวัดอีกจำนวน ๕ ไร่เศษ ร่วมกับกรรมการและชาวบ้านตัดถนนมูลดินเพื่อทำทางเข้าวัด โดยใช้ชื่อว่า ถนนพัฒนกิจ จนกระทั่งท่านได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูอมรพัฒนกิจ ( สนิท อมโร) และได้ลาสิกขาไปเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๘
ปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ คณะกรรมการวัดบุณยประดิษฐ์และทายกทายิกา จึงได้กราบอาราธนา พระมหาทวนทอง ชินวํโส ซึ่งได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบุณยประดิษฐ์แห่งนี้ และได้เดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรม ณ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กลับมารักษาการแทนเจ้าอาวาสในปีพุทธศักราช ๒๕๑๘
ปีพุทธศักราช ๒๕๔๗ วัดบุณยประดิษฐ์ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดราษฏร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ตามประกาศของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖ โดยประกาศในราชกิจจานุเษกษา เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ พระเทพเมธี เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ได้แต่งตั้ง พระปริยัติกิจโสภณ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบุณยประดิษฐ์ พระอารามหลวง ต่อมาได้รับพระบัญชาจากเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( เกี่ยว อุปเสโณ ป. ธ. ๙) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุณยประดิษฐ์ พระอารามหลวง เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
____________________________________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น